ตัวอย่างท่านที่ ๑
แชร์ประสบการณ์จากการใช้น้ำปัสสาวะ
อนุโมทนากับคุณ PATA
ในการแชร์ประสบการณ์ในครั้งนี้
ทางเลือกของผู้ป่วยเบาหวานค่ะ
แบ่งปันประสบการณ์การรักษาโรคเบาหวานด้วยการดื่มน้ำปัสสาวะที่เกิดกับตัวเอง อาจจะมีประโยชน์บ้างสำหรับเพื่อนร่วมทุกข์/โรค/โลก อาจจะดี/เหมาะกับตัวเอง บางคน อาจไม่เหมาะไม่ดีกับอีกหลายๆคนก็ได้ แต่ขอให้ศึกษาเรื่องน้ำปัสสาวะให้เข้าใจ แล้วทดลองอย่างน้อยก็ไร้สารเคมี ประหยัด และยังไม่เคยได้รับคำบอกเล่าจากเพื่อนๆที่แนะนำไปว่ามีอันตรายจากการดื่มค่ะ
ต้นปี 2553 ป้าตาอ่อนเพลียมาก ผิวหนังแห้งเป็นขุยทั้งตัว ริมฝีปากแห้งลอกออกเป็นแผ่น ผมแห้งกรอบ ร่วง ขอบเล็บเป็นแผล สายตาฝ้า จนถึงพฤษภาคมน้ำหนักตัวลด 6 ก.ก ผอม เหี่ยว กล้ามเนื้อลีบและมีไข้นานหลายวันจึงไปโรงพยาบาลใหญ่ของจังหวัดสงขลา คุณหมอตรวจอยู่นานไม่พบสาเหตุการไข้ ความดันโลหิตปกติ ไขมันปกติ แต่พบน้ำตาลในเลือดสูง 229 มก.(ค่าปกติ 110)
คุณหมอสั่งยาให้กลับมากินที่บ้าน 14 วันแล้วนัดอีก เดินไปรับยาแทบไม่ไหว คุณเภสัชกรส่งยาให้แล้วบอกว่า “ป้า ยาช่วยได้แค่ 20 % นะจ๊ะ ที่เหลือป้าต้องควบคุมอาหารและออกกำลังกาย”
ที่เดินไปรับยาแทบไม่ไหวเพราะเพลียจากไข้ด้วย และช้อคเมื่อรับทราบว่าเป็นเบาหวานด้วย ก็ปกติเราเป็นคนดูแลสุขภาพ เลือกอาหาร ไม่กินเนื้อสัตว์ ปั่นเสือภูเขา 20-30 ก.ม.แทบทุกเช้า ทะนงตัวมากเลยว่าไม่เป็นโรคอะไรแน่ชาตินี้(นอกจากมะเร็ง เพราะพ่อแม่พี่น้องเป็นมะเร็งกันถึง 5 คน) ยังมีแรงเถียงคุณหมอหลายเรื่องด้วยนะ เช่น อาหารที่คุณหมอสั่งห้ามน่ะป้าไม่เคยกินมานานแล้ว.. ป้าออกกำลังกายทุกวัน ..ป้าเพลียเพราะไม่ค่อยได้หลับต้องลุกฉี่คืน 4-5 ครั้ง.. ป้าฉี่บ่อยเพราะกินน้ำเยอะ ฯลฯ คุณหมอเลยบอกว่า “ไม่รู้ล่ะ ป้าเป็นเบาหวานก็แล้วกัน”
เพลียมากไม่อยากคิดอะไร แต่สำนึกเดิมๆเรื่องน้ำปัสสาวะบอกว่า ตอนที่คุณหมอโรงพยาบาลใหญ่ของจังหวัดสงขลาบอกว่าพ่อเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่เมื่อราวปี 2529-30 พ่ออยู่มาได้ 20 ปี ด้วยการดื่มน้ำปัสสาวะ ซึ่งแม่กับลูกๆไม่ได้สนใจ คิดไปว่าหมอตรวจผิด ป้าตาเป็นลูกคนเดียวที่เชื่อ เพราะพ่อเป็นศิษย์หลวงปู่ชา พ่อเคยจูงมือป้าตามาหน้าหิ้งพระแล้วหยิบหนังสือเก่าๆบางๆเรื่องน้ำปัสสาวะของหลวงปู่ชาจากหิ้งพระมาให้อ่าน และอีกเรื่องคือเมื่อปี2551คราวไปร่วมกู้ชาติบนถนนราชดำเนิน ได้รับความรู้เรื่องน้ำปัสสาวะมากทีเดียว
รวมทั้งต้องขอบคุณคุณเภสัชกรผู้มีน้ำใจงดงามที่ช่วยในการตัดสิน
ใจ ในเมื่อยาช่วยได้แค่ 20 % แล้วยังมีสารเคมีด้วย เราจะกินทำไม
ค่ะ..กลับถึงบ้าน เก็บยาเข้าลิ้นชัก เริ่มดื่มน้ำปัสสาวะเย็นนั้นเลย หักดิบค่ะดื่มทั้งวันทั้งคืน ออกมาเท่าไรดื่มหมดทุกหยดตลอด 14 วัน กรอกตาเช้าเย็น ไม่กินเนื้อสัตว์ ออกกำลังกายไม่ไหวแต่อาจมีทุนเก่าอยู่อีก
• 5 วันแรกที่ดื่มน้ำปัสสาวะ เพลียหนัก ไข้สูง ถ่ายบ่อย อ้วก ไม่อยากพูดคุย เดินไม่ไหวนอนทั้งวันทั้งคืน จะsearchข้อมูลเพิ่มเติมก็นั่งหน้าคอมพ์ไม่ไหวเลย เกือบถอดใจแล้วค่ะ แต่ระลึกถึงพระพุทธเจ้าว่าสิ่งที่พระพุทธองค์สอนทุกอย่างต้องดี แปดหมื่นสี่พันธรรมขันธ์ยังจริงทุกข้อ จึงดื่มต่อค่ะ (เพิ่งมาทราบภายหลังว่าเป็นอาการที่พิษทุ้งออกมา หรือน้ำปัสสาวะขับพิษ)
• ตื่นเช้าวันที่ 8 ลืมตาด้วยอารมณ์แจ่มใส แว้ง! ตัวเองก็งงว่าเอ๊ะ
นี่ตัวเราหรือเปล่า ทำไมมันดีกะทันหันอย่างนี้ หายไข้ค่ะ
น้ำปัสสาวะเข้าไปปรับสมดุล อารมณ์แจ่มใส หายเพลีย มีแรงทำงาน ยิ้มแรก
• วันที่ 9 กลิ่นปากที่เคยเป็นปัญหามานาน หายไป กลิ่นปากไม่ใช่ปัญหาในช่องปากเสมอไป ดื่มน้ำปัสสาวะคือ Detox ด้วยวิธีกินเข้าไปชำระล้างสิ่งหมักหมมในลำไส้
เคยตื่นปัสสาวะคืนละ 4- 5 ครั้งเรื่อรังมานาน เหลือครั้งเดียว
เหงือกอักเสบ หายไป และเพิ่งสังเกตว่าแผลที่ขอบเล็บหายไม่รู้ตัว
ผิวหนังแห้งเป็นขุยๆ หายไปไม่เหลือเลย ผิวเนียน สด โดยไม่ใช้ครีมใดๆ
*** วันหมอนัด ครบ 14 วันไปตรวจตามคุณหมอนัด น้ำตาลเหลือ 99 จาก 229
ยังไม่ได้บอกสามีกับลูกเลยว่าแม่ดื่มน้ำปัสสาวะ แอบดื่มค่ะ เขาชมว่าแม่ควบคุมอาหารเก่ง
จนครบ 6 เดือน แน่ใจว่าหายแล้วจึงบอก สามีและลูกๆศรัทธา เพราะเห็นผลที่ดีขึ้นในตัวแม่ตลอด 6 เดือน
สามีดื่มบ้าง ริดสีดวงทวารหายไม่รู้ตัว
ลูกชายใช้ทาเม็ดคันบริเวณก้น 7-8 วัน หายค่ะ
ลูกสาวใช้ทาสิวในแผ่นหลัง 3 วันหายค่ะ
ปัจจุบันป้าตายังดื่มน้ำปัสสาวะและกรอกตาทุกเช้าค่ะ 3 ปีเศษ ผ่านไปแล้ว ขณะนี้ป้าตาอายุ 60 ปี กลับไปใช้แว่นตาที่ตัดไว้เมื่อ 10 ปีก่อนค่ะและตั้งจิตปวารณาว่าจะต้องแบ่งปันประสบการณ์นี้แก่ผู้อื่น ไม่อยากให้ใครๆสักคนจากคนที่รัก จากคนในครอบครัวไปด้วยวัยที่ยังไม่ควร
ทุกเช้าป้าตาไปช่วยจัดรายการวิทยุชุมชนในหมู่บ้านชื่อรายการ เพลงเก่าในวันใหม่ จึงได้มีโอกาสแบ่งปันประสบการณ์นี้ผ่านรายการ มีผู้ป่วยที่ดื่มแจ้งผลมาว่า ดีขึ้น บางคนดีใจมากบอกมาว่าหมอสั่งหยุดยาเบาหวาน หมอสั่งหยุดยาไขมันในเลือด หมอสั่งหยุดยาความดันโลหิตสูง และเรื่องเล็กๆน้อยๆอีกมากมาย เช่น ปวดเมื่อยทรมานมานาน ปวดฟัน เจ็บตา เป็นแผล สิว เม็ด ตุ่ม
มีบางคนบอกมาว่า กำลังฝึก บ้างว่ายังทำใจไม่ได้ บางคนยังรังเกียจ ก็เลยไม่ทราบจะช่วยอย่างไร เรื่องนี้มันเป็นเรื่องของบุญกรรมด้วย บุญมาแล้วแต่ยังมีกรรม
ป้าตาหายป่วยเพราะมีบุญ บุญแรกคือเกิดมาในพุทธศาสนา จึงได้รับความรู้จากหลวงปู่ชาผ่านความเจ็บป่วยของพ่อ บุญที่สองที่สร้างไว้คราวไปช่วยกู้ชาติบ้านเมือง ได้รับบุญมาในรูปต่างๆเพื่อที่จะเอามาใช้ในยามทุกข์ยาก เพราะในขณะนั้นไม่ได้เจ็บป่วยอะไร ตั้งใจไปแสดงพลังกู้ชาติเท่านั้น แต่ได้ไปพบคนธรรมะเป็นกองทัพ มีซุ้มความรู้ต่างๆเหมือนจะให้
เตรียมเสบียงไว้ไปใช้ เช่น ซุ้มอาจารย์หมอเขียว ไปนั่งดูท่านสอนขูดกัวซา
พอกสมุนไพร สอนทำน้ำคลอโรฟิลด์ ทำอาหารสุขภาพมังสะวิรัต ออกกำลังกายโยคะ
กดจุดที่หน้าเวทียามเช้า คลุกคลีเรียนรู้ประโยชน์ของน้ำปัสสาวะ ซุ้มอื่นๆเช่น ซุ้มดนตรีไทย ทำดอกไม้ การศึกษาตามอัธยาศัย(ปัจจุบันป้าตาก็ได้ไปช่วยทีมงานน้องๆในหมู่บ้านที่ทำการศึกษานอกกรอบอยู่ด้วยค่ะ) บุญที่สามจากคุณเภสัชกรเป็นแรงสำคัญมากในการตัดสินใจรักษาด้วยการดื่มน้ำปัสสาวะค่ะ
แบ่งปัน แบ่งบุญกันนะคะ ขอให้หายจากโรคที่เป็นอยู่ มีกำลังใจอดของแสลง และขอให้มีความสุขในโลกใบนี้ค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น